รื่นรมย์

มกราคม 17, 2011

ในวันที่อากาศดีๆ ไม่ได้มีมาบ่อยๆ

เฉกเช่นเดียวกับความรื่นรมย์ในชีวิต

เมื่อใดเกิดมีรอยยิ้มในใจ โปรดจงเก็บรักษาไว้

เผื่อวันใดที่เราอ้างว้าง รอยยิ้มนั้นจะได้สว่างอยู่กลางใจ

ให้รอยยิ้มนั้นนำพาชีวิตก้าวเดินต่อไปได้ด้วยความรื่นรมย์

เริ่มต้น

มกราคม 2, 2011

เรามักจะยึดเอาวันสุดท้ายของปีเป็นตัวกำหนด

ว่าจากนี้เราจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง

พรุ่งนี้นะ พรุ่งนี้จะปีใหม่แล้ว เราจะเปลี่ยนทุกสิ่งให้ดีขึ้น

มีสิ่งต่างๆมากมายไหลเข้ามาเพื่อบอกให้รู้ว่า

ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเริ่มต้นใหม่สักที

โอกาสอันดีก็คือปีใหม่ที่กำลังจะมาเยือน

แล้วเวลาก็พาเราเดินข้ามปี

เวลาเปลี่ยน …

พ.ศ. เปลี่ยน …

แล้วเราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้จริงหรือไม่ … ขึ้นอยู่กับใจตน

 

 

 

สวัสดีปี ๒๕๕๔

มกราคม 1, 2011

ค่ำคืน

กันยายน 4, 2010

ในคืนที่ฝนพร่ำยามดึกสงัด  พบว่าสรรพสิ่งเงียบงัน

มีเพียงเสียงฝนกระทบพื้น สลับกับเสียงของสรรพชีวิตในธรรมชาติ

ลมหายใจของเรา ร่างกายของเรา จริงหรือที่เป็นของเรา

ยิ้มให้กับตัวเอง เมื่อรู้ว่าทุกสิ่ง ไม่มีอะไรจริงอยู่เลย

บทเรียนใหม่

กรกฎาคม 31, 2010

ทุกครั้งที่เราทำหนังสารคดี เรามักจะถูกถามเสมอว่า อะไรคือสิ่งที่ยากที่สุด

เราก็มักจะตอบไปได้ทันทีแบบไม่ต้องคิดว่า การหาทุนมาสนับสนุน

และในครั้งนี้เราก็กำลังเริ่มบทเรียนการหาทุนอีกครั้ง

หากแต่ครั้งนี้เราเปลี่ยนมุมมองใหม่ เราไม่มองว่ามันยากอีกต่อไป

เพราะเราเข้าใจแล้วว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ได้อยู่ที่ทุนสนุบสนุน

หากแต่อยู่ที่การได้ออกไปพบเจอกับผู้คน ที่พวกเขาอยู่ในบทบาทอันแตกต่างจากเรา

เราเพียงแค่ไปขอความช่วยเหลือ ขอความเข้าใจ และขอความเป็นเพื่อน

แม้การกลับมาซึ่งมือเปล่าก็ไม่อาจทำให้เราท้อได้อีกต่อไป

เพราะสิ่งที่เราได้กลับมาคือมิตรภาพ ที่เราว่ามันมีค่ามากกว่าทุนสนับสนุนเป็นไหนๆ

วันนี้เราก็ยังคงทำหน้าที่เดินต่อไป เดินไปให้ไกล และทำทุกอย่างด้วยจริงใจ

ไม่ว่าบทเรียนนี้จะยากและท้าทายเพียงใด

เราจะพยายามเต็มที่ เพื่อจะสอบผ่านบทเรียนนี้ไปให้ได้อย่างสวยงาม

เพื่อน

กรกฎาคม 25, 2010

การทำงานไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดของชีวิต

เพราะงานที่ดีที่สุดไม่เคยมีจริงในโลกอันสมมุติแห่งนี้

ความรู้สึกของมนุษย์ที่ร่วมทำงานกับเราต่างหากที่สำคัญ

เพราะทุกรอยทางที่เราร่วมเดินฝ่าฝันมานั้น มันมีทั้งเสียงหัวเราะและหยดนำ้ตา

หากจำเป็นจะต้องเลือกระหว่างคำว่า “งาน” กับคำว่า “เพื่อน”

เราขอตัดคำว่า “งาน” ทิ้งไปจากโลกนี้  และขอเก็บไว้เพียงแค่คำๆเดียวคือ “เพื่อน” เท่านั้น

หากไม่มีงาน เราเชื่อว่าเรายังอยู่ได้

แต่หากไม่มีเพื่อน ชีวิตที่เหลืออยู่จะมีความหมายอะไร …

เพราะ “เพื่อน” คือส่วนที่มาเติมเต็มชีวิตเรา …

เพลง ฟ้าสีไทย

กรกฎาคม 18, 2010

ตั้งแต่เกิดมา ลืมตามองบนฟ้าไทย

ไม่เคยเข้าใจ ทำไมฟ้าไทยจึงสวย

เดินไปทางไหน มีรอยยิ้ม มีน้ำใจ มีความรุ่มรวย

รุ่มรวย ความเอื้ออาทร

เติบโตขึ้นมา ท่ามกลางความเป็นไทย

จึงเริ่มเข้าใจ ฟ้าไทยทำไมจึงสวย

เพราะว่าคนไทย มีความรัก ความเข้าใจ มีความรุ่มรวย

รุ่มรวย ด้วยมิตรไมตรี

มาถึงวัน ที่ฉันนั้นไม่เข้าใจ

ทำไม คนไทยจึงแบ่งแยกสี

ก็ในเมื่อเรา มีพ่อที่ดีแสนดี

ทำไมวันนี้ เราจึงต้องแบ่งแยกกัน

แผ่นดินไทย เป็นของคนไทยทุกคน

กี่บรรพชน ได้สร้างไว้ให้ลูกหลาน

จะมาทำลายกันในพริบตา ทำร้ายกันและกัน

หยุดขัดแย้งกัน ให้ฝันร้ายได้ผ่านไป

ยิ้มสยาม แผ่นดินงาม เมืองน้ำใจ

ท่องเอาไว้ บ้านเราเคยเป็นแบบนี้

หยุดเกลียดกัน หยุดทะเลาะกัน แล้วหันมาสร้างความดี

เพื่อพ่อเรานี้ จะไม่ต้องมีน้ำตา   เพื่อฟ้าไทย จะใสสว่างดังเดิม

สยามที่รัก ๕

มิถุนายน 24, 2010

สยามที่รัก…

เมื่อวานฉันไปงาน รัก ณ สยาม ที่สกาลามา มีเรื่องจะเล่าให้เธอฟังมากเลยหละ
แต่ฉันขอเล่าเฉพาะความประทับใจส่วนตัวก็แล้วกันนะ

สิ่งที่ฉันอยากเล่าให้เธอฟังมากที่สุดคือ ความพยายามสุดกำลังของทีมงาน
เท่าที่ฉันได้เห็นด้วยตา ได้สัมผัสด้วยใจ ฉันรู้สึกว่าพวกเขาตั้งใจทำงานนี้เพื่อเธอมากๆ
ทีมงานเมื่อวานนี้เยอะจริงๆแต่ฉันไม่เห็นว่าจะมีคนไหนแสดงความเหนื่อยล้าหรือว่าไม่น่ารัก
ฉันว่าพวกเขาเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีน้ำใจกับครอบครัวของเธอมากๆ

คุณบี๋ คนที่เป็นตัวตั้งตัวตีการจัดงานเล่าให้ฟังว่า

“ทุกคนที่ทำงานนี้ล้วนแล้วแต่มีงานประจำ
ทุกวันหลังเลิกงานก็จะมารวมตัวประชุมกันในช่วงค่ำๆ
กว่าจะประชุมเสร็จ ได้กลับบ้าน เข้านอนก็ประมาณตีสองตีสามทุกคืน
พอเช้าก็ต้องตื่นไปทำงานประจำ ตกเย็นก็มาประชุม
เป็นอยู่อย่างนี้ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา”

ฉันฟังแล้วก็รับรู้ได้ถึงความตั้งใจและความทุ่มเทของผู้หญิงคนนี้
แล้วก็ยังมี วิภว์ อีกคนที่ดูผอมลงไปมากๆ เขาดูเหนื่อยนะแต่เขาไม่แสดงออก
เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่เดียวที่ฉันไม่รู้จักที่ทุ่มเทกับงานนี้
เห็นไหมสยาม ทุกคนทุ่มเทเพื่อเธอและเพื่อนๆของเธอมากแค่ไหน

อีกหนึ่งความประทับใจคือเสื้อที่แม่ของเธอทำให้ทุกคนในครอบครัวใส่
เขียนว่า “ขอขอบคุณ พลังน้ำใจ ของทุกท่าน”
แสดงให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนว่าแม่ของเธอซาบซึ้งในน้ำใจที่ได้รับเพียงใด

และที่ต้องประทับไว้ในความทรงจำก็คือ ศิลปินทุกคนที่มาร่วมในงาน
มากันมากมายจริงๆ เป็นไปได้ยังไงที่งานนี้มีความยาวถึง ๑๐ ชั่วโมง
แถมคนที่มาชมก็อยู่กันตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นไปได้ยังไง
ถ้าไม่ใช่ว่าทุกคนมาด้วยความรักความจริงใจ

สยาม ฉันอยากเห็นรอยยิ้มของเธอ
ฉันอยากให้เธอรับรู้ว่าเพื่อนๆของเธอกำลังได้รับความช่วยเหลือแล้วนะ
เพราะจากยอดรายได้นั้นสามารถนำไปช่วยเหลือเพื่อนๆของเธอได้ครบทุกคน

แม้มันจะไม่มากมาย แต่มันก็เป็นน้ำใจที่เกิดมาจากหยาดเหงื่อของคนที่รักเธอ … (โปรดอ่านต่อฉบับหน้า)

รักและระลึกถึงเธอเสมอ
นิสา คงศรี
๒๐ มิถุนายน ๒๕๕๓

ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเลือกทางเดินของชีวิตตน เลือกที่จะฝันถึงสิ่งต่างๆมากมาย

แต่ขอให้ศรัทธากับทางเดินที่เลือกและความฝันอันสวยงามนั้น … ด้วยรอยยิ้มเสมอ


อารมณ์

มิถุนายน 20, 2010